Amazing Race at Mt Bromo

เหตุเกิดจากออฟฟิศมีการประชุมที่บาหลี  ตุ่มอยากเที่ยวก็ได้ทำงานอย่างแอคทีฟ กระตุก ยิก ยิก หาเรื่องไปเที่ยว MT Bromoด้วยเลยดีกว่า พอดีเคยดูรายการ Tonight Show มีการพาไปเที่ยว MT Bromo ตอนนั้นที่นั่งดูก็ยังแบบ มันคืออะไร ไมดูลำบากจุง ไมต้องตื่นเช้า ไมต้องขี่ม้า    ไหน ๆ ก็มีโอกาสละ ไปมันสักหน่อยพิสูจน์ด้วยตัวเอง

 

 มีเพื่อนร่วมวิบากทริปกะเราสี่ชีวิต ต้องขอบคุณเพื่อนๆมากมาย เพราะทริปนี้มีส่วนผสมที่ลงตัวจริงๆ 


พี่หมูมู่ ชายเดี๋ยวหล่อสุดเป็นผู้พิทักษ์นางฟ้าอย่างพวกเรา ถึงกล้ามไม่ใหญ่ แต่น้องๆรู้สึกปลอดภัยตลอดทริป

เพื่อนบุ๋มมี่ คอยเอนเตอร์เทนเพื่อนๆ อาจกัดกะพี่หมูมู่บางครา. แต่บางครั้งก็จูบปากกันดี คอยดูแลการกินการอยู่ อีกคนเพื่อนนีน่า. นางฟ้าขนานแท้ ใจเย็น ไม่เรื่องมากเลย. น่ารักสุดๆ


แผนการเดินทาง เราใช้บริการสายการบินไทยไปลงจาร์กาต้า. แล้วบินต่อภายในด้วย lion air ไปลง Surabaya  นัดบริษัททัวรอที่เราติดต่อก่อนเดินทางมารับที่สนามบิน แล้วนั่งรถยิงตรงไป Probolinggo  เพราะ Mt Bromo ตั้งอยู่ในเขตนี้ค่า


การเดินทางจากสนามบินไป Probolinggo สามารถตีตั๋วนอนยาวได้เลยค่า เพราะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม เนื่องจากถนนมีเลนส์เดียว เลยสวนลำบาก


เราเลือกที่พักคือ jiwa jawa Bromo resort

https://www.tripadvisor.com/Hotel_Review-g3199127-d1147335-Reviews-Jiwa_Jawa_Bromo-Sukapura_East_Java_Java.html


เราเลือกห้องอยู่ได้ 4 คน จะเป็นสไตล์ loft มีสองชั้น สะอาด มีamenity ต่างๆพร้อมค่า ลองดูรีวิวได้ใน trip advisor ติดอันดับหนึ่งทีเดียว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกค่ะ


โปรแกรมคือไกด์นัดให้พร้อมขึ้นรถตอน ตีสองสี่สิบเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น. โอ้วแม้เจ้า แอบอุทานในใจคนเดียว แถวบ้านพระอาทิตย์มันขึ้นตีห้า  ไหงที่นี่ขึ้นเร็วจังฟะ  ไหนๆมาละเชื่อเขาก็ได้ ตื่นตามเขา


ถ้าเพื่อนๆจะมาต้องเตรียมเสื้อหนาวด้วยนะคะ อากาศหนาวใช้ได้เลย แต่ถ้าไม่อยากเอามาหรือบางไป ก็มีบริการเช่าเสื้อหนาวแถวๆนั้นนะคะ. ไม่ต้องห่วง. แต่ใช้ของตัวเองดีที่สุดตามคติแม่สอนมาเพื่อความสะอาดนะจ้ะ


 


ยืนรอจนได้ประเดิมรูปแรก รับแสงอรุณยามเช้าค่า

 


รูป Mt Bromo ยามเช้าตรู่ ดูสวยงาม มีสกุลมากค่ะ สมกับการตื่นตีสองครึ่งเพื่อมาดูจริงๆ


สายนิดนึง. ก็จะได้แสงอีกแบบ  ใครชอบถ่ายรูปหล่ะก็ จะสนุกกับทริปนี้มากๆ  



พออยู่จุดนี้จนพอ เราก็จะนั่งรถจี้ปไปต่อค่ะ เข้าใกล้ Mt Bromo ขึ้นไปอีกนิด


นี่คือโฉมหน้าของรถ JEEP ที่ทุกคนต้องนั่งไปที่ Mt Bromo ค่า ยัดได้สี่ถึงห้าคน มีหลากหลายสีน่ารักมากมาย


ระหว่างทางเขาก็จะแวะจุดถ่ายรูปให้เราได้ถ่ายอีกแล้น


 


อันนี้คือจุดที่แวะนะคะ จะเห็นวิวข้างหลังเป็นภูเขา แล้วนี่คือ Jeep ของพวกเราค่ะ สีเขียวพาสเทลเข้ากะภูเขาเป็นที่สุด


 

สนุกกันใหญ่กะ jump shot หมู่


เนื่องจากมันเป็นที่โล่งมาก รูปที่ถ่ายออกมาจะสวยแทบทุกรูปค่ะ   ทั้งๆที่ไม่ได้ปรับกล้องอะไรเลย แต่รูปดีงามทุกรูป


อวดรูปนางแบบนิดนุงส์ credit: boomie 


พอถ่ายแบบกันจนหนำใจก็มุ่งหน้าจ่อไปยังตีนเขาของ Bromo 

รถจี้บจะจอดเรียงแบบด้านล่างแล้วเราต้องเดินไปต่อนะคะ


 



 แต่ถ้าไม่อยากเดิน เขามีตัวช่วยค่ะ

 


สามารถนั่งม้าได้ ราคาประมาณแสนถึงแสนห้า IDR ขึ้นนอยู่กะทักษะการต่อรอง. สาวๆตัดสินใจนั่งม้า ส่วนพี่หมูมู่เดินเอา


หากใครไม่เคยนั่งม้า แนะนำให้ลองนะคะ. มันก็สนุกไปอีกแบบ อาจเจ็บก้นบ้างเล็กน้อย แต่เป็นอีกประสบการณ์ที่น่าลองค่ะ  พยายามเอนหลังนิดนึงตอนลงทางราบชันด้วยนะคะ. 


พอนั่งม้าสักแปป. จะถึงจุดที่ม้าจะจอดให้ลงแล้วต้องเดินขึ้นต่อค่ะ 


 

 

จริงๆมันมีขั้นบันไดให้เดินอย่างสะดวก แต่ดั้นมีดินจากภูเขาไฟที่ประทุออกมาจากครั้งที่แล้วเยอะมากมาอยู่ตามขั้นบันได เลยทำให้เดินลำบาก ต้องคอยเกาะราวเอา  ถ้าเพื่อนๆมา. ควรใส่รองเท้าหุ้มส้นที่เป็นผ้าใบหรือแนวกีฬาก็ได้ค่ะจะได้เดินแล้วไม่ลื่น ห้ามลากแตะเป็นเด็ดขาด 

เห็นดินมะคะในรูป ถมบันไดมิดเลยค่า  อ้อควรติดพวก wet tissue ไปด้วยนะคะ เพราะมือดำมากตอนจับราว

 


เดินขึ้นมาเรื่อย ๆจะเจอวิวประมาณนี้  มันสวยมากแล้วเราได้เดินมาสูงมากพอมองย้อนกลับไป

เดินต่อไปก็จะเจอปล่องค่ะ ใหญ่อลังมาก


สามารถเดินไปเรื่อยๆได้ค่ะ มันจะมีที่กั้นให้สักระยะ เดินไปสักพักก็จะไม่มีที่กั้น. ถ้าใครไม่ไหวก็ไม่แนะนำให้เดินต่อนะคะเพื่อความปลอดภัย


มันจะโล่งๆแบบรูปเลยค่ะ ตอนเดินก็ต้องระวังมากๆ 


 

 

ตอนนี้พวกเราพร้อมกลับกันละคะ มานั่งน้องม้าตัวเดิม


รถจี้ปพาไปทุ่ง savanna ถ่ายรูปต่อ ก็จะเขียวๆมีหญ้าตามรูปเลยค่ะ


 

แต่ถ่ายรูปออกมาแล้วงามทีเดียวค่ะทุ่งนี้

พอถ่ายรูปเสร็จก็ตีรถกลับโรงแรม เพื่อกินข้าวเช้าแล้วรีบออกเดินทางกลับสุราบาย่า  เพราะเราจะมีบินไปบาหลีเพื่อประชุมต่อวันรุ่งขึ้น

บทสรุปคือมันเป็นทริปที่ฟินมากเพราะมันมีความลำบาก การตื่นเข้า การรอคอยพระอาทิตย์ท่ามกลางความหนาว การเดินทางที่ยาวนาน การได้นั่งม้าครั้งแรก ซึ่งมันทำให้เรามีความสนุกมาก บางครั้งอะไรที่ไม่ได้สบายมากมันก็ทำให้ชีวิตเรามีสีสัน ได้เรียนรู้การปรับตัว Expect the unexpected!! มันใช่เลยกะทริป Mt Bromo. 

Good bye Mt Bromo! 

Singapore - รวมตัวกันหนุกหนาน

ไม่อยากจะเชื่อว่าจะสามารถรวมตัวเพื่อน ๆ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เป็นความมหัศจรรย์แต่ดีใจมาก ๆ ที่เพื่อน ๆ มากันได้หลายคน พอดีมีโอกาสได้มาขุดทองทำงานที่สิงคโปร์ เพื่อนหญิงก็มีโอกาสมาประชุมงานที่สิงคโปร์พอดี หมีน้อยกะน้องนิ้งก็แอบหนีงานมาเที่ยวมาพักกะเรา หนูหนึ่งก็บินมาจากมาเลเซีย พวกเราเลยได้มารวมตัวสาวสวย 5 คน อยากบอกว่าสนุกม๊าก แต่ละคนก็แอ๊บปล่อยความเป็นเด็กกันออกมา หุหุหุ

วันแรกหมีกับนิ้งก็ไปเที่ยวเล่นกันสองคน เพราะเรากับหญิงต้องทำงาน เลยมารวมตัวกันตอนเย็น พาไปกินข้าวมันไก่ Five Star
แถวบ้าน อยู่ที่ River Valley Road ใครสนใจไปทานได้นะคะ
แล้วก็ไปกันต่อที่ Singapore Flyer เพื่อชมวิวตอนกลางคืน ตั๋วราคา 29.50 SGD นะคะ สำหรับผู้ใหญ่ ตั๋วเด็กก็จะถูกลงนิ๊ดนึงอยู่ที่ 20.65 SGD



วิวด้านหลังสวยม๊ากค่ะ แต่รูปนี้โดนนางแบบขโมยซีนไป



ใช้เวลาอยู่ใน singapore Flyer ประมาณ 45 นาทีนะคะ ออกมาก็จะมีร้านที่ระลึกให้ซื้อของ แนะนำว่าหลังจากนั่ง Singapore Flyer เสร็จแล้ว ให้เดินต่อไปที่ Marina Bay Sand เพื่อเก็บรูปค่ะ จะมีสะพานเดินเชื่อมต่อ คุณก็เดิน เก็บรูปไปเรื่อย ๆ

รูป Singapore Flyer สวยดีค่ะ สีจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ด้วย



เก็บตกรูประหว่างเดิน วิวสวยจริง ๆ ค่ะ ยิ่งกลางคืนจะมีไฟตามตึกต่าง ๆ ทำให้รูปดูสวยขึ้นด้วย รูปนี้ด้านหลังเป็นโรงแรม Marina Bay Sand ที่มีคาสิโน



วิว Marina Bay ยามค่ำคืน



แล้วก็เดินมาถึง Marina Bay Sand Hotel ด้านในมี Casino กับร้านค้าต่าง ๆ ค่ะ ถึงแล้วก็ถ่ายรูปเป็นหลักฐานซะหน่อย



งานนี้เจ้าตัวต้องขออภัยเพื่อนหมีกะเพื่อนนิ้งอย่างแรง เพราะดันลืมเอา Passport มาเลยอดเข้าไปด้านใน เพื่อน ๆ ก็ช่างน่ารัก ไม่ยอมเข้าไปกันสองคน เลยเดินเล่นอีกแป๊บนึก ก็กลับคอนโดนอนเอาแรง เพราะพรุ่งนี้เป้าหมายคือไปเที่ยวสวนสนุก Universal Studio

วิธีการไป Universal ไม่ยากค่ะ นั่งรถไฟ MRT ไปลงที่สถานี Harbourfont แล้วก็นั่ง Monorail ไปลงที่ Universal ค่ะ คุณจะซื้อตั๋วที่โน่นเลยก็ได้ หรืออีกวิธีคือจองออนไลน์ผ่านเวปไซต์ตามลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ

http://www.rwsentosa.com/Attractions/UniversalStudiosSingapore

ตั๋ว One Day Pass จะอยู่ที่คนละ 66 SGD แต่เนื่องจากตอนนี้ยังไม่ได้เปิด Madadassga กับ รถไฟเหาะ เขาเลยคืนเงินค่าอาหารให้ 10 SGD กะ ค่าซื้อของอีกคนละ 5 SGD ถือว่าใช้ได้เลยนะคะ

วันนี้พร้อมหน้าพร้อมตากัน สดใสกันทุกคน เลยต้องประเดิมภาพแรกที่ Universal ซะหน่อยก่อนเข้าไปด้านใน





พอเข้ามาด้านในก็รีบเข้าไปถ่ายรูปกับรถข้าวโพดกันใหญ่ เหมือนย้อนเวลาไปเป็นเด็กกันอีกรอบ





ประมาณว่าเจออะไรก็ถ่ายค่ะ แถวมีการยืมหมวกเป็นพร๊อพในการถ่ายรูปด้วย สนุกกันใหญ่ แต่ไม่ซื้อนะคะ ถ่ายเสร็จวาง ฮาฮาฮา



เอาบรรยากาศภายในมาฝากค่ะ

โซน Jurassic Park



โซน Mummy



มาต่อเลยที่โซน Sci Fi city ตอนนี้รถไฟยังไม่เปิดนะคะ



รูป Far Far Away Land ตอนเย็น สวยมากค่ะ





บรรยากาศโดยรวมน่ารักมาก เข้าไปแล้วมีความสุขสุดสุด









ก็ต้องขอลา Universal พอแค่นี้เพราะเหนื่อยเหลือเกินกับการถ่ายรูป

วันที่สาม พวกเราเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการไปกินข้าวเช้าที่ Kilinery Road ร้านนี้จะดังเรื่อง Rice Roll ค่ะ อร่อยดี



แล้วไปเอาฤกษ์เอาชัยต่อด้วยการไปวัดเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก แนะนำให้ไปไหว้ถ้ามีโอกาสนะคะ ไปลงสถานี Bugis แล้วก็มองหาป้าย Kwan Im Temple เดินตามเลยค่ะ ไม่มีหลง



ไปกันต่อที่ China Town ถึงปุ๊ปก็ปะเดิมชมนมไข่มุกกันก่อน ร้านนี้กะลัง In Trend ค่ะ



มีเมนูให้เลือกหลากหลาย หวานมาก หวานน้อย ก็บอกได้ค่ะ



ไปต่อที่ Buddha Tooth Temple เป็นวัดที่อยู่ใน China Town และก็ติดแอร์ค่ะ เพื่อนหมีก็กระโดดหน้าวัดอย่างเมามัน



บรรยากาศด้านในวัดก็จะมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ค่ะ สงบดี



โดยรวมเป็นการรวมตัวที่สนุกมากค่ะ อยากให้มีทริปแบบนี้อีก